Samui

 

3 วัน 2 คืน เที่ยวเกาะสมุย-เกาะนางยวน พร้อมวิธีการเดินทาง เกาะสวยของอ่าวไทยที่ต้องไปให้ได้






- DAY 1 -

ทริปครั้งนี้เราและคุณแฟนขอไปแบบสโลว์ไลฟ์ชิลๆ โดยเลือกเดินทางด้วยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ บินตรงไปลงที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานี แล้วต่อรถชัตเติ้ลบัสไปยังท่าเรือหน้าทอน เพื่อข้ามฟากไปยัง ' เกาะสมุย ' ซึ่งวันนี้เราขอยกให้เป็นวันแห่งการเดินทางเลยล่ะค่ะ เพราะตั้งแต่สนามบินดอนเมือง ต่อรถ ต่อเรือ จนถึงบนเกาะสมุย ก็ใช้เวลาร่วมกว่า 5 ชั่วโมงเลยทีเดียว 

มาถึงสนามบินปลายทางแล้ว ก็ไปซื้อตั๋วและดูรอบเดินเรือข้ามฟากกันต่อทันที ซึ่งในทริปนี้เราใช้บริการของ ซีทรานเฟอร์รี่ ที่บอกเลยว่าราคาสบายกระเป๋าและสะดวกสบายมากๆ เพราะที่นี่มีรถชัตเติ้ลบัสรับ-ส่งจากสนามบิน ไปยังท่าเรือซีทรานเฟอร์รี่ (ดอนสัก) และมีบริการเรือที่หลากหลายรูปแบบคอยให้บริการระหว่างท่าเรือดอนสัก เกาะสมุย เกาะพงัน และเกาะเต่า ซึ่งแต่ละปลายทางก็จะมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันออกไป เพื่อนๆ สามารถเช็คราคาได้ทางเว็บไซต์ www.seatranferry.com หรือทางโทรศัพท์ 077-372-824





ส่วนรอบโดยสารขาไปจากสนามบินสุราษฎร์ธานี - เกาะสมุย (ท่าเรือหน้าทอน) จะมีตั้งแต่ 10.00 น. - 17.00 น. ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง และรอบโดยสารขากลับจากเกาะสมุย (ท่าเรือหน้าทอน) - สนามบินสุราษฎร์ธานี จะมีตั้งแต่ 11.00 - 16.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 400 บาทต่อคนค่ะ

ที่ท่าเรือซีทรานเฟอร์รี่ มีบริการร้านสะดวกซื้อและร้านกาแฟสด ใครที่หิวหรือเหนื่อยจากการเดินทางมาก็สามารถมานั่งผ่อนคลายและหาของว่างรองท้องระหว่างรอเรือได้เลย หรือใครที่มีลูกเด็กเล็กแดงมาด้วย ก็สามารถพาน้องๆ มาเล่นที่สนามเด็กเล่นแก้เบื่อระหว่างรอรอบเรือได้อีกด้วยล่ะค่ะ


















นั่งจิบกาแฟเพลินๆ ก็ได้ยินเสียงประกาศตามสายจากพนักงาน ให้เตรียมตัวเดินทางในรอบต่อไป ด้วยความที่เป็นครั้งแรกที่เราสองคนมาสมุย บอกเลยว่าตื่นเต้นมากกก! สองไม้สองมือหยิบกระเป๋าสัมภาระโดยพลัน เร่งฝีเท้าไปยังเรือข้ามฟากลำโตทันทีอย่างไม่รอช้าเลยล่ะค่ะ

บนเรือมีที่นั่งรองรับผู้โดยสารมากมาย ทั้งแบบเอ้าท์ดอร์ อินดอร์ลมธรรมชาติ และห้องแอร์ปรับอากาศเย็นฉ่ำ ให้เราได้เลือกนั่งตามชอบความเลยล่ะค่ะ ส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกบนเรือ ก็มีตั้งแต่ห้องน้ำ โทรทัศน์ ไปจนถึงร้านสะดวกซื้อ ที่จะคอยให้บริการระหว่างเดินทาง บอกเลยว่าสะดวกสบายและดีต่อใจมากๆ เลยค่ะ



































ทานของว่างรองท้องพร้อมชมวิวสองข้างทางบนเรือเพลินๆ แป๊บเดียวก็ถึงเกาะสมุยแล้วล่ะ

 

 

 


 

 

 ขึ้นฝั่งปุ๊บ ท้องร้องปั๊บ! เดินทางมาเหนื่อยๆ แบบนี้เราก็ต้องขอแวะเติมพลังกับมื้ออร่อยกันก่อน ที่ร้าน Honey Seafood (ฮันนี่ซีฟู้ด) ร้านอาหารสไตล์ฟิวชั่น-ไทยพื้นบ้าน ที่อยู่ริมชายหาดเชิงมนต์ ในตำบลบ่อผุด และอยู่ห่างจากท่าเรือเพียง 20 นาทีเท่านั้นค่ะ มาด้วยความหิวโซระดับ 10 แบบนี้ เราก็ขอสั่งเมนูชุดใหญ่ไฟกระพริบจัดมาเติมพลังกันหน่อย โดยวันนี้เราสั่งน้ำพริกพริกไทยดำเสริฟพร้อมผักสด เมนูนี้ใครที่ชอบรสจัดจ้านเผ็ดซี๊ดจะต้องเลิฟอย่างแน่นอนเพราะพริกไทยจัดแนนจัดเต็ม ยิ่งกินกับผัดสด โอโห้! กรุบกรอบทานเพลินเชียวล่ะ , ปลาปิ้งหุบ (550 บาท), หมูผัดกะปิสะตอ (180 บาท) เนื้อหมูสุดนุ่มกินตัดกับสะตอสดใหม่ บอกคำเดียวเลยว่า ฟิน! จนตั้งสั่งเบิ้ลสองจาน, แกงส้มยอดมะพร้าว (350 บาท), มาสมัยทั้งทีก็ต้องกินอาหารใต้สุดคลาสสิคอย่าง แกงไตปลา (150 บาท) และ ยอดเหลียงผัดไข่ (130 บาท) เมนูเด็ด! ขึ้นชื่อของที่นี่เลยล่ะค่ะ







 

จุดเด่นของที่นี่นอกจากจะมีวิวสวยๆ พร้อมอาหารที่รสชาติถูกอกถูกคนรักอาหารปักษ์ใต้แบบเราแล้ว ทีนี่ก็ยังมีเครื่องดื่มค็อกเทล ม็อคเทลให้เราได้ แถมการบริการของพนักงานทุกคนก็เป็นมิตรและใส่ใจกับลูกค้าทุกคนเป็นอย่าง บอกเลยว่าประทับใจมากๆ และมาสมุยครั้งหน้าจะกลับมาที่นี่อีกอย่างแน่นอนค่ะ




Honey Seafood (ฮันนี่ซีฟู้ด)

ที่ตั้ง : 24/34 หมู่ 5 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

เบอร์โทรศัพท์ : 083-646-4188

วันและเวลาเปิด - ปิด  : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 8.00 - 22.00 น.

GPS : https://goo.gl/maps/oPvdKfB3N81EQc7eA

เว็บไซต์ : http://www.samuihoney.com/

 

กินมื้อเที่ยงกันอิ่มแล้วเราก็ลากกระเป๋าตรงไปยังที่พักสุดหรูที่อยู่ไม่ไกลกันนัก ซึ่งวันนี้เรามาพักกันที่ Tango Luxe Beach Villa Samui รีสอร์ทสุดหรูริมชายหาดใน ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ที่โดดเด่นด้วยสไตล์การตกแต่งแบบไทยผสมผสานความเป็นจีนได้อย่างลงตัว และห้องพักแบบไพรเวทวิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวแบบจากุชชี่นั่นเอง

ห้องพักของที่นี่มีทั้งหมด 14 ห้อง ประกอบไปด้วย Junior Suite with Plunge Pool วิลล่าส่วนตัวขนาด 62 ตารางเมตร 5 ห้อง, Sala Suite with Plunge Pool วิลล่าส่วนตัวขนาด 80 ตารางเมตร 5 ห้อง, Grand Sala Suite Pool Villa วิลล่า 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำขนาดใหญ่ บนพื้นที่ใช้สอยกว่า 138 ตารางเมตร 2 ห้อง และ Grand Sunset Suite Pool Villa วิลล่า 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่มาพร้อมกับจุดวิวริมชายหาดส่วนตัวในห้องพักจำนวน 2 ห้องนั่นเองค่ะ ตามทางเดินของที่นี่เต็มไปพุ่มไม้เขียวขจี บรรยากาศร่มรื่นสบายตามากๆ ค่ะ


ห้องที่เราพักกันในคืนนี้คือ Junior Suite with Plunge Pool วิลล่าสำหรับผู้เข้าพัก 2 ท่าน ขนาด 62 ตารางเมตร ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาถึงกับต้องร้องว้าวเลยล่ะค่ะ เพราะบรรยากาศในวิลล่าดีต่อใจมากกกก รอบๆ มีพื้นที่นั่งเล่นและสระว่ายน้ำพร้อมจากุชชี่ขนาดกระทัดรัดหน้าห้องพัก เห็นแล้วก็อดถ่ายรูปชิคๆ อัพลงโซเชียลไม่ได้เลยล่ะค่ะ 


บรรยากาศในห้องพักอบอุ่นและผ่อนคลายมาก ภายในตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้แบบเรียบง่าย โปร่ง โล่งสบาย แบ่งโซนใช้สอยได้อย่างดี และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเลยทีเดียว ทั้งเครื่องปรับอากาศ พัดลม เคเบิลทีวี สัญญาณอินเตอร์เน็ต Wi-Fi โคมไฟ ตู้นิรภัย ตู้เสื้อผ้า เครื่องชงกาแฟ มินิบาร์ในห้องพัก ฯลฯ ซึ่งทันทีที่เราเช็คอิน ทางรีสอร์ทจะมีบริการผลไม้หวานๆ ฉ่ำๆ คอยต้อนรับเราในวิลลาด้วยค่ะ ฟินมากเว่อร์!



ภายในห้องน้ำตกแต่งแบบเรียบง่ายโทนอบอุ่น ใช้ก้อนหินตกแต่งรอบๆ ห้อง ช่วยเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายเหมือนอาบน้ำอยู่ท่ามสวนธรรมชาติ มีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์ ไดร์เป่าผม ตะกร้าผ้า และอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่อยู่ใจกลางห้อง เห็นแล้วก็อยากจะลงไปแช่ตัวซะเดี๋ยวนั้นจริงๆ เลย

 

 

 

 

 

 

 


 

 

เดินทางมาเหนื่อยๆ พวกเราขอแวะผ่อนคลายร่างกายกันซักหน่อยที่ Cielo Spa ห้องสปาที่อยู่บริเวณล็อบบี้ด้านหน้าของรีสอร์ท ที่มีทั้งบริการนวดไทย อโรม่า ทรีตเมนต์ และห้องสตรีมอบไอน้ำ บอกเลยว่าฟินสบายมากจนคุณแฟนเผลอเคลิ้มหลับไปเลยล่ะค่ะ


นวดสปาจนหนำใจคลายความเมื่อยล้าเสร็จแล้ว ก็แวะไปเติมพลังกับเมนูอร่อยๆ กันต่อที่ Sea La Vie bar & bistro บาร์สุดชิคริมชายหาด ที่สามารถจิบค็อกเทลแก้วโปรดพร้อมชมพระอาทิตย์ตกดินสวยๆ แบบพาโนรามา 180 องศาได้จากที่นี่นั่นเอง

 

 

 

 

 

 


ใครที่มาแบบคู่ฮันนีมูนสุดสวีทหวาน แล้วอยากเพิ่มบรรยากาศความโรแมนติกเข้าไปอีกแบบเราสองคน ทางรีสอร์ทก็มีบริการจัดซุ้มพร้อมเซตดินเนอร์สุดหรูอย่าง Romatic Dinner Set ที่มาพร้อมกับเมนูอาหารมากหน้าหลายตา อาทิ ผัดผักรวมมิตร ยำวุ้นเส้นซีฟู้ด กุ้งราดซอสแพนง ต้มยำทะเลเปรี้ยวซี๊ดเผ็ดโดนใจ ปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานแบบไทยๆ อย่าง ลูกชุบ ฝอยทอง ภายในเซตยังมีไวน์ชั้นเยี่ยมอีก 2 แก้วที่จะคอยเพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้นด้วยค่ะ ราคาเซตนี้เพียง 3,500 บาทเท่านั้น คุ้มมากคุณแฟนปลื้มสุดๆ ไปเลย


ในส่วนของอาหารเช้าของที่นี่จะเป็นแบบเซต ซึ่งมีหลากหลายสไตล์ในเราได้เลือกทาน ซึ่งในตอนเช้าตั้งแต่เวลา 7.00 - 11.00 น. จะมีพนักงานมาเสิร์ฟอาหารเช้าถึงหน้าวิลล่ากันเลยทีเดียว สะดวกสบายมากๆ เมนูเช้านี้สาวรักสุขภาพแบบเราขอสั่ง Summer Bowl สมูทตี้มิกซ์เบอร์รี่โยเกิร์ตท็อปด้วยโฮมเมดกราโนล่าและผลไม้เปรี้ยวหวานต่าง ๆ เพิ่มความสดชื่นให้เช้าที่แสนสดใส ส่วนของคุณแฟนขอสั่งเบิ้ลเป็นสองเซตคือ เซตอาหารไทยที่มีทั้งผัดผักรวมมิตร แกงเขียวหวานไก่และ หมูทอดกระเทียม และเซตอาหารเช้าแบบอังกฤษ อย่างไข่เบเนดิกท์ที่เสิร์ฟพร้อมขนมปังมัฟฟินผ่าครึ่ง ท็อปด้วยเบค่อนชิ้นโตๆ เติมพลัง เตรียมพร้อมสำหรับการเดินทางกันเต็มที่เลยล่ะค่ะ



Tango Luxe Beach Villa (แทงโก้ลักษ์ บีชวิลล่า เกาะสมุย)

ที่ตั้ง : 79/100 หมู่ 5 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

เบอร์โทรศัพท์ : 077-960-252

ราคาห้องพักรวมอาหารเช้า

- Junior Suite with Plunge Pool ราคาเริ่มต้น 3,900 บาท

GPS : https://goo.gl/maps/1FD6186LsV5D7qtL6

เว็บไซต์ : http://www.tangoluxe.com/

 

 

 

 

 

 

 

 

 



- DAY 2 -

มาสมุยทั้งที ถ้าไม่ได้ลงเล่นน้ำชมโลกใต้ท้องทะเลก็คงเหมือนจะมาไม่ถึง ก่อนมาที่นี่เราได้ทำการจองทัวร์เดย์ทริปเกาะนางยวนและเกาะเต่า ผ่านทาง Dear Vacation Thailand บริษัทรับจองทัวร์ออนไลน์ในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพงัน เกาะเต่า สุราษฎร์ธานี และพื้นที่อื่นๆ ในภาคใต้ โดยทริปนี้เราใช้เรือและไกด์นำเที่ยวของ My Samui Island Tour ซึ่งค่าใช้จ่ายทัวร์เกาะนางยวน-เกาะเต่า จะอยู่ที่คนละ 2,100 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และ 1,700 บาท สำหรับเด็กอายุ 4 - 9 ปีค่ะ ซึ่งราคานี้รวมรถรับ-ส่งโรงแรมที่พัก หน้ากากดำน้ำ เสื้อชูชีพ น้ำดื่มบนเรือ และอาหารเที่ยงแบบบุฟเฟ่ต์ เก๋และคุ้มมากบอกเลยจ้า

 




 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

เรือของที่นี่จะออกทริปเวลา 8.30 น. ของทุกวัน ซึ่งทั้งนี้ต้องดูคลื่นและมรสุมในแต่ละเดือนด้วยนะคะ






ก่อนออกทริปจะมีพี่วิทยากรมาชี้แจงเกี่ยวกับเวลาและเส้นทางของทริปนี้ การเดินทางจากท่าเรือไปยังเกาะนางยวนจะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่ง และจะใช้เวลาจากเกาะนางยวนไปยังเกาะเต่าอีกประมาณ 30 นาที ซึ่งเราจะมีเวลาในการเที่ยวเกาะนางยวน 1 ชั่วโมง และดำน้ำเกาะเต่า 2 จุด จุดละ 45 - 60 นาทีค่ะ โดยเราจะกลับมาถึงฝั่งประมาณ 17.00 น. นั่นเองค่ะ



 


 

ระหว่างการเดินทางพี่วิทยากรจะคอยแนะนำจุดเที่ยวและอธิบายเกี่ยวกับกฏต่างๆ ของการเที่ยวเกาะนางยวน ซึ่งสิ่งที่ห้ามนำขึ้นเกาะหลัก ๆ ก็คือ เครื่องดื่ม ขวดน้ำพลาสติก อาหาร รองเท้าดำน้ำ - ตีนกบ และห้ามเก็บเปลือกหอยหรือซากปะการัง ออกจากเกาะนางยวนค่ะ 


 


เดินทางเพียงชั่วโมงครึ่งก็ถึงเกาะนางยวน หนึ่งในเกาะที่สวยที่สุดในโลก ดินแดนชวนฝันของเราและหลายๆ คนแล้วล่ะค่ะ อัตราค่าเข้าชมจะอยู่ที่คนละ 30 บาทสำหรับคนไทย และสำหรับชาวต่างชาติผู้ใหญ่-เด็ก คนละ 100 บาทค่ะ

เกาะนางยวน เป็นเกาะเล็กๆ 3 เกาะที่เชื่อมต่อถึงกันด้วยสันทรายสีขาวนวล อยู่ทางทิศเหนือของเกาะเต่า ขึ้นชื่อว่าเป็น 1 ใน 10 เกาะที่สวยที่สุดในโลก และเป็นแหล่งดำน้ำตื้น - สกูบาที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกด้วยเช่นกันค่ะ นอกจากนี้บนเกาะนางยวนยังมีบริการร้านค้า ร้านอาหาร เตียงอาบแดด และห้องพักด้วยค่ะ ใครที่อยากดื่มด่ำธรรมชาตินานๆ ก็สามารถจองห้องพักมาพักได้ที่นี่เลยค่ะ


 


 


 




 


 

 

 

 

 

Japanese Gardens จุดดำน้ำตื้นบนเกาะนางยวน ที่มีปะการังและฝูงปลาขนาดเล็กสีสันสวยงามมากมาย


มาเกาะนางยวนทั้งที ถ้าไม่มาเช็คอินเก็บภาพสวยๆ บนจุดชมวิวเกาะนางยวนถือว่ามาไม่ถึงนะคะ ทางเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวค่อนข้างชันและแคบ เหงื่อแอบตกนิดๆ แต่ขึ้นไปแล้วหายเหนื่อยเลยล่ะค่ะ เพราะวิวสวยมากกกก! จนต้องกดชัตเตอร์รัวๆ จนเมมเกือบเต็มเลยล่ะค่ะ


ความพิเศษของจุดชมวิวของที่นี่ คือเราสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ได้จากบริเวณเดียวกัน แต่ถ้าใครอยากจะชมพระอาทิตย์ตกดินต้องเป็นลูกค้าที่พักในรีสอร์ทบนเกาะเท่านั้น เพราะบุคคลทั่วไปจะสามารถอยู่บนเกาะได้ถึง 17.00 น. เท่านั้นนะคะ


อิ่มเอมใจกับความสวยงามบนเกาะนางยวนครบ 1 ชั่วโมงแล้วก็ลงเรือเดินทางต่อไปยังเกาะเต่าทันที ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากเกาะนางยวน เพียง 20 นาทีก็ถึงแล้วล่ะค่ะ 

เกาะเต่า เป็นเกาะที่อยู่ในเขตพื้นที่อ.เกาะพะงัน ของจ.สุราษฎร์ธานี ลักษณะรูปร่างคล้ายเมล็ดถั่ว ประกอบไปด้วย 11 อ่าว 10 แหลม บนพื้นที่ 12,936 ไร่ ด้วยความที่ตัวเกาะอยู่ห่างไกลจากตัวเมือง จึงทำให้ในอดีตบริเวณชายหาดนี้เต็มไปเต่าตัวน้อยตัวใหญ่ที่มาหาแหล่งวางไข่เป็นจำนวนมาก เกาะเต่าเป็นแหล่งดำน้ำที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรองจากออสเตรเลียนั่นเองค่ะ


ก่อนไปดำน้ำเราแวะทานอาหารเที่ยงกันที่ มนตรา ' ห้องอาหารของมนตรารีสอร์ทที่อยู่บนเกาะเต่านั่นเองค่ะ เมนูมื้อเที่ยงของเราจะมีผัดเปรี้ยวหวานไก่ แกงเขียวหวานไก่ ต้มจืด ไก่ทอด และผลไม้ตามฤดูอย่างสับปะรดและแตงโม ซึ่งสามารถทานได้แบบบุฟเฟ่ต์เติมได้ไม่อั้นเลยล่ะค่ะ 


 


 

 

แวะทานมื้อเที่ยงเติมพลังกันเรียบร้อยแล้วก็นั่งเรือต่อไปยังจุดดำน้ำรอบๆ เกาะเต่ากันต่อเลยค่ะ ซึ่งในวันนี้เราได้ดำ 2 จุด คือ อ่าวหินวง และ อ่าวไวท์เฮ้าส์ โดยใช้เวลาประมาณ 40 - 60 นาทีในแต่ละจุดค่ะ เรียกได้ว่าชมโลกใต้ทะเลกันจนหนำใจเลยล่ะค่ะ ซึ่งเราก็ไม่ลืมที่จะเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ มาฝากเช่นเคยค่ะ

ปลาตัวเล็กตัวน้อยหลากหลายสีสันออกมาทักทายเราตามแนวปะการัง

หอยมือเสือ เป็นหอยในกลุ่มหอยสองฝาที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีสีสันสวยงาม จัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองใกล้สูญพันธ์ ในบัญชีสัตว์สงวนและคุ้มครอง ประเภท 2 ของพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ในปี 2535 ด้วยนะคะ

บอกเลยว่าเพลิดเพลินกับโลกใต้ท้องทะเลของที่นี่มากๆ จนไม่อยากกลับขึ้นฝั่งเลยล่ะค่ะ ใครมาสมุยแล้วก็อย่าลืมมาดำน้ำชมโลกใต้ท้องทะเลสวยๆ แบบเรา กับ My Samui Island Tour ซึ่งสามารถติดต่อจองทริปทัวร์ ได้ทางเบอร์โทรศัพท์ 084-848-6086 เว็บไซต์ www.dearvacationthailand.com หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเฟสบุ๊ก Dear Vacation Thailand ได้เลยค่ะเพื่อนๆ ส่วนใครที่อยากหาชุดว่ายน้ำดีไซน์เก๋ๆ แบบเรา ก็สามารถสั่งซื้อได้ทาง Bulletbyaoi หรือ IG bulletbyaoi ได้เลยค่ะ

 

อิ่มตากับบรรยากาศใต้ท้องทะเลที่สวยงามแล้ว ก็มาพักผ่อนให้อิ่มใจกันต่อที่ X2 Koh Samui - A Spa Retreat (ครอสทูเกาะสมุย อะ สปา รีทรีต) รีสอร์ทสไตล์โมเดิร์นระดับห้าดาว ที่มาพร้อมกับบรรยากาศเงียบสงบไม่วุ่นวาย มีความเป็นส่วนตัว และใกล้ชิดธรรมชาติมากๆ เลยล่ะค่ะ



ทันทีที่ก้าวเข้ามาในรีสอร์ท เราจะได้พบกับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและสุภาพจากพนักงาน พร้อมเวลคัมดริ้ง ผ้าเย็นและมะพร้าวลูกโตที่มีน้ำมะพร้าวและเนื้อฉ่ำๆ ที่สามารถคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางได้เป็นปลิดทิ้งเลยล่ะค่ะ เช็คอินเรียบร้อยแล้วก็ไม่รอช้า ไปดูห้องพักกันต่อเลยดีกว่าค่ะ

ห้องพักของที่นี่จะเป็นแบบไพรเวทวิลล่า ที่มีทั้งหมด 26 ห้อง 4 รูปแบบคือ Garden Villa, Pool Villa, Family Pool Villa และ 2 Bedroom Pool Villa เชื่อมต่อถึงกันด้วยทางเดินสะพานไม้และหย่อมหญ้าอันเขียวขจีตลอดสองข้างทางนั่นเองค่ะ บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวมากๆ ค่ะ



ส่วนห้องที่เรานอนในวันนี้จะเป็นห้อง Pool Villa วิลล่าส่วนตัวสไตล์โมเดิร์นขนาด 120 ตารางเมตรนั่นเองค่ะ ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาบอกเลยว่าอยากกรี๊ดเพราะด้านในสวยมากกก! ตรงกลางวิลล่ามีสระว่ายน้ำส่วนตัว ไซส์น่ารักกำลังพอดี และรอบข้างมีพื้นที่นั่งเล่นกลางแจ้ง ที่สามารถมานั่งชิลหรือจะนอนอาบแดดเก๋ๆ ก็ได้ เห็นแล้วก็อยากหยิบบิกีนี่ตัวโปรดมาโพสต์ท่ารัวๆ อัพลงโซเชียลซะเดี๋ยวนั้นเลยล่ะ


เซลฟี่จนหนำใจแล้ว ก็แวะเข้ามาดูบรรยากาศในห้องพักกันต่อ บอกเลยว่า ' เห้ยเธอมันดีต่อใจสุดๆ อ่ะ ' เพราะสวยสู้ไม่แพ้กัน ภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้ง เตียงนุ่มแบบคิงส์ไซส์ เครื่องปรับอากาศ โคมไฟ โทรศัพท์ เคเบิลทีวี กาต้มน้ำ เครื่องชงชา-กาแฟดริฟ และห้องน้ำขนาดใหญ่ ที่มีทั้งฝักบัวและอ่างอาบน้ำเก๋ๆ ให้เราได้เลือกฟินตามความชอบ อีกหนึ่งความเก๋ของห้องน้ำที่นี่ ก็คือการแยกโซนแห้งโซนเปียก ที่มีประตูเชื่อมต่อโดยตรงกับสระว่ายน้ำ ที่เมื่อเราเล่นน้ำกันเต็มอิ่มแล้ว ก็สามารถเดินเข้ามาในห้องน้ำได้แบบไม่ต้องผ่านห้องนอนให้เปียกชื้นและยุ่งยากกันอีกต่อไป บอกเลยว่าสะดวกสบายและปลื้มมากๆ จ้า 




ชมบรรยากาศในวิลล่าไปแล้ว ก็แวะมาเดินเล่นชมบรรยากาศรอบๆ รีสอร์ทกันต่ออีกสักหน่อย ด้วยพื้นที่ใช้สอยในรีสอร์ทกว่า 12 ไร่ จึงทำให้ที่นี่มีโซนส่วนกลางที่จะคอยให้บริการและรองรับการพักผ่อนของเราได้หลายรูปแบบเลยล่ะค่ะ ทั้งห้องนวดสปา สระว่ายน้ำริมชายหาดขนาดใหญ่ ห้องอาหารสุดหรู และจุดชมวิวริมชายหาดนั่นเองค่ะ


 


 

4K Restaurant เป็นห้องอาหารริมชายหาดในรีสอร์ท ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ 7.00 - 23.00 น. ซึ่งเพื่อนๆ สามารถมาทานอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์ได้จากที่นี่ด้วยเช่นกันค่ะ ห้องอาหารของที่นี่มีบริการเครื่องดื่มทั้งน้ำอัดลม ไวน์ และแชมเปญหลากหลายสัญชาติให้ได้ลิ้มลอง ส่วนเมนูอาหารของที่นี่จะเป็นสไตล์ฟิวชั่นที่ผสมผสานความเป็นเอเชียและตะวันตกได้อย่างลงตัว เมนูแนะนำที่อยากให้มาลิ้มลอง X2 Hokkaido scallop and Foie Gras salad ฟัวกราตับห่านชั้นเยี่ยมกับเนื้อหอยเชลล์อวบๆ ตัดกับซอสสูตรพิเศษของ 4K Restaurant ได้อย่างลงตัว ไม่คาวและนุ่มละมุนลิ้นมากๆ เลยค่ะ ได้ทานอาหารรสเริศไปพร้อมกับการชมวิวยามริมทะเลยามเย็น บรรยากาศโรแมนติก ดีต่อใจสุดๆ ไปเลยล่ะค่ะ


 


 

- DAY 3 - 

เริ่มต้นเช้าที่สดใสด้วยมื้อเช้าสุดพิเศษจากทางรีสอร์ท ซึ่งเมนูอาหารเช้าของที่นี่เป็นแบบบุฟเฟต์ มีไลน์อาหารค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ทั้งแบบอเมริกันเบรคฟาส สลัด ผัดซีอิ๊ว ข้าวต้ม เบเกอรี่ ชา นม กาแฟ น้ำผลไม้ ฯลฯ อีกหนึ่งความคุ้มค่านอกจากบุฟเฟต์นวดสปาไม่อั้นของที่นี่แล้ว ก็ยังมี X2 Signatures Breakfast บุฟเฟต์อาหารเช้าที่มาพร้อมกับบุปเฟต์แชมเปญเติมได้ไม่อั้น ตั้งแต่ 7.00 - 11.00 น. เอาใจสายดื่มยาวๆ ไปเลยจ้าแต่ถ้าใครยังรู้สึกเฉยๆ ธรรมดาไม่ว้าวมากพอ เราขอแนะนำ Floating Breakfast เซตอาหารสุดเริ่ดที่ให้เราได้ทานอาหารกลางสระว่ายน้ำเก๋ๆ พร้อมบิกินี่ตัวโปรดถ่ายรูปอัพลงโซเชียลอวดเพื่อนๆ กันแบบสุดเหวี่ยงไปเลยค่ะ

ก่อนเดินทางกลับเราขอไปนวดผ่อนคลายกันต่อที่ X2 Cross To SPA ห้องสปาของรีสอร์ท ซึ่งใครที่จองห้องพักแบบ  All Spa Inclusive อย่างเรา ก็สามารถมานวดแบบบุฟเฟ่ต์ ไม่จำกัดเที่ยว ไม่จำกัดรอบ ใช้บริการได้ทุกคอร์ส  ทั้งนวดไทย อโรมา ทรีตเมนต์ และอื่นๆ อีกหลากหลายคอร์สให้เพื่อนๆ ได้เลือกปรนนิบัติร่างกายกันได้ตั้งแต่ 10.00 - 20.00 น. เลยล่ะค่ะ บอกเลยว่าที่นี่เป็นที่เดียวบนเกาะสมุย ที่มีบริการเริ่ดๆ แบบนี้ สายสปาสายทรีตเม้นท์ห้ามพลาดเชียวนะคะ



X2 Koh Samui - A Spa Retreat (ครอสทูเกาะสมุย - อะ สปา รีทรีต)
ที่ตั้ง : 442 หมู่ 1 หาดหัวถนน ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
เบอร์โทรศัพท์ : 077-332-799, 086-275-2406
ราคาห้องพักรวมอาหารเช้า
- Pool Villa
ราคาเริ่มต้น 6,500 บาท
-
เตียงเสริมราคา 1,500 บาท
GPS : https://goo.gl/maps/uEACes2ufptoyv9H9
เฟสบุ๊ก : X2 Koh Samui - A Spa Retreat

 

... ถึงเวลาโบกมือ Bye Bye ลาสมุยกลับบ้านแล้วล่ะค่ะ บอกเลยว่าเป็นทริป 3 วัน 2 คืนที่เรากับคุณแฟนแฮปปี้มากกก! ถ้ามีเวลาว่างแบบนี้อีก เราคงได้มีโอกาสมาชมความงามของเกาะสมุย ดินแดนต้องมนต์แห่งโลกใต้ท้องทะเลแห่งนี้อย่างแน่นอนค่ะ ... 

 

ความคิดเห็น